‘แบล็คแจ็คออนไลน์’ เกมไพ่ออนไลน์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมที่นิยมมากที่สุดในหมู่นักพนันหรือบางคนเรียกตัวเองนักนับไพ่แบล็คแจ็ค สาเหตุที่แบล็คเจ็คออนไลน์เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นเกมที่ไม่ได้ใช้ดวงเพียงอย่างเดียวแต่เป็นการใช้ไหวพริบในการเล่นเกม อีกทั้งยังเป็นเกมที่เจ้ามือมีโอกาสชนะเพียง 0.13% เท่านั้น จนได้รับการขนานนามว่า “แบล็คแจ็ค ศิลปะแห่งการคำนวณ”
ทำความเข้าใจคำศัพท์ในเกมแบล็คแจ็ค W88
Blackjack – แต้มผู้เล่นได้ 21 แต้มพอดี
Hitting – การขอไพ่เพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใกล้แต้ม 21 มากที่สุด
Standing – เมื่อไพ่ในมือผู้เล่นมีแต้มที่ค่อนข้างสูงและพึงพอใจแล้ว จะอยู่เฉยๆ
Doubling down – การวางเดิมพันเพิ่ม 1 เท่าหรือสูงกว่า โดยขอไพ่เพิ่มได้ 1 ใบเท่านั้น กรณีนี้ใช้ได้เมื่อได้ไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น หรือขอแยกไพ่แล้วเท่านั้น
Splitting – การขอแยกไพ่เป็นสองมือ จะใช้ได้ในกรณีที่ไพ่สองใบแรกเป็นไพ่คู่เท่านั้น
Insurance – กรณีที่ไพ่ของดีลเลอร์เป็น A จะมีการถามว่าใครจะทำประกันบ้าง โดยการเพิ่มเงิน 0.5 เท่าจากเงินเดิมพัน ถ้าเจ้ามือได้แบล็คแจ็คผู้เล่นมีโอกาสได้เงินประกันคืน แต่หากไม่ใช่ก็จะแพ้และถูกริบเงินประกันด้วย (ใช้ได้กรณีได้ไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น)
Surrender – ขอยอมแพ้และจะได้เงินเดิมพันกลับคืนมาครึ่งหนึ่ง (ใช้ได้กรณีได้ไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น)
วิธีเล่นและกติกาของแบล็คแจ็คออนไลน์
การเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์และในคาสิโนจริงใช้กฎเดียวกันได้เลย และมีวิธีเล่นเดียวกันด้วย
- ผู้เล่นวางเดิมพันในช่องที่กำหนด
- การเล่นแบล็คแจ็คสามารถใช้ไพ่ตั้งแต่ 1-8 สำรับต่อหนึ่งเกม โดยดีลเลอร์แจกไพ่ให้แก่ผู้เล่นและดีลเลอร์จนครบทั้ง 2 ใบตามจำนวนผู้เล่น
- เมื่อผู้เล่นวิเคราะห์ไพ่แล้วสามารถวางเดิมพันขึ้นได้ 1 เท่าขึ้นไป (กรณีได้ไพ่สูง พร้อมขอไพ่เพิ่มได้เพียง 1 ใบเท่านั้น) หรือสามารถขอไพ่เพิ่มเพื่อให้แต้มเข้าใกล้ 21 ได้มากที่สุด
- เมื่อผู้เล่นเรียกไพ่หรือวางเดิมพันเพิ่มจนครบแล้ว ฝ่ายดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่และเรียกไพ่เพิ่มให้เข้าใกล้ 17 แต้มที่สุด เมื่อแต้มเท่ากับ 17 หรือมากกว่าดีลเลอร์ต้องหยุดเรียกไพ่ทันที
- ตัดสินการแพ้-ชนะตามแต้มที่แสดงออกมา
*โดยอัตราการจ่ายเมื่อผู้เล่นชนะด้วย Blackjack หรือ 21 แต้ม จะจ่ายที่อัตรา 3:2 หรือ 150% หรือ 1.5 เท่า แต่หากเป็นการชนะแบบทั่วไปจะได้ 1 เท่า และจะเสียเงินเดิมพันทั้งหมดหากแพ้ ซึ่งมีอยู่ 2 กรณี คือ แต้มดีลเลอร์เข้าใกล้ 21 มากกว่า หรือผู้เล่นได้แต้มเกิน 21
การนับไพ่แบล็คแจ็ค
ไพ่ที่ใช้ในการเล่นเกมแบล็คแจ็คคือไพ่ทั้ง 52 ใบที่มีอยู่ใน 1 สำรับ โดยมีการนับแต้มไพ่ ดังนี้
- ไพ่ 2 – 10 จะถูกคำนวณตามแต้มที่มีอยู่หน้าไพ่ เช่น 5 โพธิ์แดง มีค่าเท่ากับ 5 เป็นต้น
- ไพ่ J Q K จะมีค่าเท่ากับ 10
- ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11